คณะรัฐมนตรี
มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพ
และการอนุญาตอยู่ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษแก่คนต่างด้าวมติครม.วันที่ 20 สิงหาคม 2562
มติครม.วันที่ 4 สิงหาคม 2563
มติครม.วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ก
มติครม.วันที่
29 ธันวาคม 2563
คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ
1. เห็นชอบขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพ
และการอนุญาตอยู่ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษให้แก่
คนต่างด้าวตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
ออกไปอีก 6 เดือน โดยให้การขยายระยะเวลาดังกล่าวครอบคลุมไปถึงคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ
(MOU) ซึ่งวาระการจ้างงานครบ
2 ปี ด้วย
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ดังนี้
2.1 เห็นชอบขยายระยะเวลาการตรวจโรคต้องห้าม 6 โรค ได้แก่ โรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย
โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคยาเสพติดให้โทษ
โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคซิฟิลิสในระยะที่ 3 ออกไปถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2564 รวมแล้วเป็นระยะเวลา 6 เดือน และสำหรับการตรวจโรคโควิด - 19 ยังให้อยู่ในกรอบระยะเวลาเดิม คือ ต้องตรวจโรคโควิด - 19 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 เมษายน 2564
2.2 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการจัดทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังบัตรของคนต่างด้าวที่มีนายจ้างออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 และคนต่างด้าวซึ่งไม่มีนายจ้างที่ในเวลาต่อมามีนายจ้างออกไปจนถึงวันที่
28 กุมภาพันธ์ 2565
2.3 เห็นชอบให้มีการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคล (Biometric) โดยให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับการตรวจโรคโควิด
19 เพื่อการพิสูจน์ตัวตนของคนต่างด้าวและความมั่นคงของประเทศ
และส่งข้อมูลให้กรมการจัดหางานออกใบอนุญาตทำงาน
2.5 หายให้สามารถกลับเข้ามาขอรับอนุญาตทำงานได้แต่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน
60 วัน ผู้หายป่วยจากโรคโควิด
19
กลุ่มเป้าหมายที่จะต้องบริหารจัดการ รวมทั้งสิ้น 2,335,671 คน ได้แก่
1. กลุ่มที่ถือบัตรสีชมพู จำนวน 1,400,387
คน ประกอบด้วย
1.1 กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 20 สิงหาคม 2562 มีจำนวน 1,162,443 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสุขภาพและขอต่อ Visa ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 ให้ขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพ
และ
ขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
1.2 กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 4 สิงหาคม 2563 มีจำนวน 237,944 คน
ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสุขภาพและขอต่อ Visa ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 ให้ขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพ
และ
ขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564
2. กลุ่มแรงงานต่างด้าวตาม
MOU จำนวน 434,784
คน ประกอบด้วย
2.1 แรงงานต่างด้าวกลุ่ม MOU ตามมติคณะรัฐมนตรี 10 พฤศจิกายน 2563 มีจำนวน 119,094 คน
2.2 แรงงานต่างด้าวกลุ่ม MOU ที่วาระการจ้างงานครบ 2 ปีแรก 315,690 คน
ทั้งสองกลุ่มอยู่ระหว่างตรวจสุขภาพและขอต่อ
Visa จึงขอขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพ และขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งกลุ่มนี้ทยอยครบกำหนด โดยสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565
3.กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างยื่นลงทะเบียน
คาดว่ามีจำนวนประมาณ 500,000 คน จัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics)
เพื่อการพิสูจน์ตัวตนของคนต่างด้าว
และความมั่นคงของประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ตรวจโควิด 19 ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 และให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองส่งข้อมูลคนต่างด้าวที่ได้จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics)
@Service_Workpermit หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการผ่อนปรนแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวปี
2562 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
โดยให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ที่ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562
ซึ่งนายจ้างหรือผู้ได้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน
หรือยื่นผ่านระบบออนไลน์ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 และไม่สามารถดำเนินการขอตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปเพื่อการทำงานได้ทันภายในกำหนด
รวมถึงผู้ติดตาม อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ มิให้นำมาตรา 12
(10) และมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง
พ.ศ. 2522 มาบังคับใช้แก่คนต่างด้าว
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20
สิงหาคม 2562 ดังนี้
1. กระทรวงมหาดไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง
พ.ศ. 2522 โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง
การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562
เพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวและผู้ติดตามที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ต่อไปจนถึงวันที่
30 มิถุนายน 2563 และให้ยกเว้นค่าเปรียบเทียบปรับการอยู่เกินกำหนด
(Over Stay) รวมถึงการยกเว้นการปฏิบัติตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ที่ 1/2558 เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักร
สั่ง ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
2. กระทรวงแรงงาน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกประกาศกระทรวงแรงงาน
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..)
เพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่การอนุญาตทำงานสิ้นสุดสามารถทำงานไปพลางก่อนได้จนถึงวันที่
30 มิถุนายน 2563 และใช้บัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวที่กรมการจัดหางานออกให้และใบอนุญาตทำงานฉบับเดิมไปพลางก่อนได้
โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวจนกว่าจะไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
3. หลังสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดำเนินการตรวจสอบปราบปราม จับกุมดำเนินคดีนายจ้าง
แรงงานผิดกฎหมายที่ลักลอบทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สาระสำคัญ
การผ่อนปรนแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว
ปี 2562 2563 มีดังนี้
1. กลุ่มเป้าหมาย : ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ
1.1 แรงงานต่างด้าวที่ได้มาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 และยื่นบัญชีรายชื่อไว้แล้วภายในวันที่
31 มีนาคม 2563 แต่ยังไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดได้
1.2 ผู้ติดตามที่มีหลักฐานการเป็นบุตรของแรงงานตามข้อ 1.1 ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี
ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25
ตุลาคม 2559 หรือมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16
มกราคม 2561 แล้วแต่กรณี
2. ระยะเวลาดำเนินการ : ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
3. ลักษณะการดำเนินการ :
เป็นการดำเนินการในลักษณะเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่แรงงานต่างด้าว 3
สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร
4. การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร การอนุญาตให้ทำงาน วิธีดำเนินการ
ค่าใช้จ่ายและผู้ติดตาม เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20
สิงหาคม 2562
5. สถานที่ดำเนินการ : ดำเนินการ ณ สถานที่ตั้งของแต่ละหน่วยงาน
หรือเป็นไปตามที่กรมการจัดหางานกำหนด
6. แรงงานต่างด้าวทุกคนต้องทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยให้แล้วเสร็จภายในวันที่
30 มิถุนายน 2563 มิฉะนั้นจะสิ้นสุดการอยู่ในราชอาณาจักร
ที่มา:
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2563