ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่
๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ตามมติดณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
ตามที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการในการควบคุมและจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ ให้นายจ้างสามารถนำคนต่างด้าวจากต่างประเทศมาทำงานในประเทศตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ และมีนโยบายในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับการอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ให้นายจ้างต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกับการนำมาทำงานในประเทศตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศเพื่อให้คนต่างด้าวดังกล่าวสามารถทำงานในราชอาณาจักรต่อไปนั้น เเต่ด้วยการดำเนินการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในช่วงเวลาที่ผ่านมามีข้อจำกัดหรือเกิดอุปสรรคในการเดินทางหลายประการ ก่อให้เกิดความล่าช้า และไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเเรงงานของนายจ้างในช่วงการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาการขาดเเคลนแรงงานไปเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานเป็นการชั่วคราว ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ต่อไปเป็นการเฉพาะ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๕๗เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. ๒๕๒๒ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
"คนต่างด้าว" หมายความว่า บุคคลสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังไม่สิ้นอายุ และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๑๗ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ดังต่อไปนี้
(๑) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร
เป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(๒) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖๖๖ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖
"ประกาศกระทรวงแรงงาน" หมายความว่า ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
ข้อ ๒ นอกจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ การดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวสิ้นสุดลง ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ข้อ ๓ เมื่อคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานตามข้อ ๘ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน มาขอตรวจตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หรือตรวจอนุญาต ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปได้ไม่เกินวันที่๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๗๐ ตามหนังสือที่ได้รับแจ้งจากกรมการจัดหางาน
เมื่อคนต่างด้าวซึ่งได้รับการต่ออายุใบอนุญาตทำงานตามข้อ ๑๑ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน มาขอตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานต่อไปให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ต่อไปได้อีกหนึ่งครั้งไม่เกินวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๗๒ ตามหนังสือที่ได้รับแจ้งจากกรมการจัดหางาน
ในกรณีที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสิ้นอายุ ให้คนต่างด้าวตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองดำเนินการให้ได้มาซึ่งหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาต หรือย้ายรอยตราประทับอนุญาตและขยายระยะเวลาอนุญาตตามสิทธิให้แก่คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
ข้อ ๔ ให้ผู้ติดตามคนต่างด้าวซึ่งมีอายไม่เกินสิบแปดปีอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามระยะเวลาที่บิดาหรือมารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร โดยให้ผู้ติดตามคนต่างด้าวนั้นดำเนินการหรือบิดาหรือมารดาของผู้นั้นดำเนินการปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาคสาขาจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด
ผู้ติดตามคนต่างก้าวซึ่งมีอายุสิบแปดปีตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ หากประสงค์จะอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปจะต้องทำงานกับนายจ้าง โดยต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานและปรับปรุงทะเบียนประวัติภายในหกสิบวันนับแต่วันที่อายุครบสิบแปดปี แต่ถ้ามีเวลาดำเนินการไม่ถึงหกสิบวับวันให้ขยายเวลาให้ครบหกสิบวัน ตามข้อ ๑๙ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน
ให้ผู้ติดตามคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษในระหว่างเวลาที่กำหนดให้ดำเนินการตามวรรคสอง
ข้อ ๕ นอกจากการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวสิ้นสุดลง เมื่อ
(๑) คนต่างด้าวไม่ดำเนินการตามประกาศนี้
(๒) การอนุญาตให้ทำงานสิ้นสุดลงตามประกาศกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
ตามที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการในการควบคุมและจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ ให้คนต่างด้าวสามารเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ แต่ด้วยมีข้อจำกัดหรือเกิดอุปสรรคในการเดินทางหลายประการ ทำให้คนต่างด้าวซึ่งจะเข้ามาทำงานมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการแรงงานภายในประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงจำเป็นต้องกำหนดให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามซึ่งอยู่และทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุดลงและประสงค์จะทำงานอย่างถูกต้อง สามารถอยู่และทำงานในราชอาณาจักรได้เป็นกรณีพิเศษ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพบศ. ๒๕๒๒ นายกรัฐมนตรีและรัฐมตรีว่าการกระทรวรมหาดไทย โดยอนุมัติของคณะรัฐมตรี
เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๖๕๖๗ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี
"คนต่างด้าว" หมายความว่า
(๑) บุคคลสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีที่ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งมีอายุหรือหมดอายุและมีรอยตราประทับขาเข้า ซึ่งระยะเวลาที่ได้กันอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดหรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานเป็นกรณีพิเศษสิ้นสิ้นสุดลงตามผลกฎหมาย และทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
(๒) บุคคลสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีที่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและมีรอยตราประทับขาเข้า ซึ่งระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร หรือระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุดลงแต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
(๓) บุคคลสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง หรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษสิ้นสุดลง และทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
"ประกาศกระทรวงแรงงาน" หมายความว่า ประกาศกระทรวงแรงงานเรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมือนมา และเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
ข้อ ๒ นอกจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ การดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวสิ้นสุดลง ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ข้อ ๓ ให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษนับแต่วันที่ประกาศใช้บังคับจนถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ เพื่อดำเนินการตามข้อ ๔ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน
ข้อ ๔ ให้คนต่างต้าวซึ่งนายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้น้ำคนต่างด้าวมาทำงานที่ได้รับมอบอำนาจจากนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวต่อกรมการจัดหางานแห่งประกาศกระทรวงแรงงานแล้ว อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อต่อดังต่อไปนี้
(๑) ดำเนินการตามข้อ ๕ และข้อ ๖ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน
(๒) จัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ๑นักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่สำนักงาน ตรวจคนเข้าเภายในวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๘
ข้อ ๕ ให้ คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานแล้ว อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานได้จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๙
ข้อ ๖ ให้คนต่างด้าวจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค สาขาจังหวัดหรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด
ข้อ ๗ ให้ผู้ติดตามคนต่างด้าวซึ่งมีอายุไม่เกินสิบแปดปีอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามระยะเวลาที่บิดาหรือมารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร โดยให้ผู้ติดตามคนต่างด้าวนั้นดำเนินการหรือบิดาหรือมารดาของผู้นั้นดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(๑) แจ้งชื่อ ที่อยู่ อายุ สัญชาติ เทศ หมายเลขโทรศัพท์ และขัอมูลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อกระทรวงแรงงาน ณ สถานที่ที่กำหนดไว้ในข้อ ๓ และภายในระยะเวลาตามข้อ ๔ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน
(๒) ยื่นคำร้องขอจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค สาขาจังหวัดหรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด
ผู้ติดตามคนต่างด้าวซึ่งมีอายุครบสิบแปดปีตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ไช้บังคับหากประสงค์ระอยู่ในราทยามาจักรต่อไป จะต้องท้านกับนายจ้างโดยต้องยื่นคำขอทำขอนุญาตท่านตามข้อ ๑๔ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน และดำเนินการตามข้อ ๔ (๒) ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ถ้าผู้ติดตามคนต่างด้าวซึ่งมีอายุครบสิบแปดปี
ตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ขยายเวลาดำเนินการให้ครบหกสิบวันนับแต่วันที่มีอายุครบสิบแปดปี
ให้ผู้ติดตามคนต่างค้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษในระหว่างเวลาที่กำหนดให้ดำเนินการตามวรรคสอง
ข้อ ๘ มิให้นำมาตรา ๑๒ (๑๐) และมาตรา ๕๔ และคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ที่ ๑/๒๕๕๘ เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักรลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ มาใช้บังคับแก่คนต่างด้าวที่ประกาศนี้รับรองให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ข้อ ๙ นอกจากการอนุญาตให้อยู่ในราชอามาจักรสิ้นสุดลงตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวสิ้นสุดลง เมื่อ
(๑) คนต่างด้าวไม่ดำเนินการตามประกาศนี้
(๒) การอนุญาตให้ทำงานสิ้นสุดลงตามประกาศกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมจดทะเบียนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ซึ่งเป็นไป ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามนโยบายรัฐบาล ดูแลสิทธิและประโยชน์ของแรงงาน ลดปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติตลอดจนการตกเป็น เหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และได้ดูแลครอบคลุมไปถึงผู้ติดตาม ซึ่งเป็นบุตรของแรงงานให้ได้รับการคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรม ขั้นตอนล่าสุดอยู่ระหว่างการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เนื่องจากเป็นประกาศกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
รมว. พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ประกาศฉบับที่ 1 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (การจดทะเบียน คนใหม่) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 67 เป็นต้นไป ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 (กลุ่มต่ออายุใบอนุญาต) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 สำหรับประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 67 เป็นต้นไป
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาระสำคัญของประกาศ ดังกล่าว คือ
ฉบับแรก ผ่อนผันให้แรงงานทั้ง 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กลุ่มที่การอนุญาตให้อยู่หรือทำงานอยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย
กลุ่มที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาต แต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
และกลุ่ม 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถึง 30 ธ.ค. 67
เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานตามที่ประกาศกระทรวงแรงงานกำหนด เมื่อดำเนินการ ตามที่กำหนดแล้วจะสามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ถึงวันที่ 31 มี.ค. 69
รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้มีสิทธิอยู่ตามสิทธิของคนต่างด้าวที่เป็นบิดา หรือ มารดา
โดยให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร
หากผู้ติดตามมีอายุ ครบ 18 ปี และประสงค์ ทำงานกับนายจ้างให้คนต่างด้าวสามารถอยู่ในประเทศไทยอีก 60 วัน เพื่อยื่นขออนุญาตทำงาน
ส่วนฉบับที่ 2 กำหนดให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 70
และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 72
ครอบคลุมถึงผู้ติดตามคนต่างด้าว (บุตรของแรงงานต่างด้าว) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี สามารถอยู่ในประเทศได้เท่ากับระยะเวลาที่บิดามารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาต โดยจะต้องไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
หากผู้ติดตามมีอายุครบ 18 ปี และประสงค์จะทำงาน ให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และดำเนินการตามกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับกำหนดวันเริ่มดำเนินการจดทะเบียนแรงงาน 4 สัญชาติ กรมการจัดหางานจะประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติทราบต่อไป ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางานอย่างใกล้ชิด ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน doe.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
6 ธ.ค. ขั้นตอนการต่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 13 ก.พ. 2568 รูปแบบ MOUPosted at 22:18h in
Blog by webmaster สำหรับแรงงานที่ต้องการต่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 13 ก.พ. 2568 ในรูปแบบของ MOU ตามมติ ครม. 24 กันยายน 2567 ได้ทำการสรุปขั้นตอนดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้ว นายจ้างสามารถดำเนินการเองได้หรือจะจ้างให้บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าวช่วยจัดการแทนก็สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย ลองมาเช็กขั้นตอนกันได้เลย
ขั้นตอนการต่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 13 ก.พ. 2568 รูปแบบ MOU 1. ทำการยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว จะเป็นผู้ดำเนินการ ทำการยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานคนต่างด้าวต่อกรมการจัดหางาน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในวันที่ 13 ก.พ. 2568
แรงงานสัญชาติกัมพูชายื่นได้ แรงงานสัญชาติเมียนมาร์ยื่นได้ ส่วนแรงงานสัญชาติลาวและเวียดนามไม่มีระบบการต่ออายุ ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางภายในวันที่ 13 ก.พ. 2568 ทั้งนี้หากประสงค์กลับเข้ามาทำงานต้องดำเนินการทำ MOU ใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามกรมการจัดหาแรงงานจะพยายามทำการเจรจาโดยขอความร่วมมือจากประเทศต้นทางเพื่อสร้างความสะดวกให้กับแรงงาน 2 สัญชาติ ไม่ต้องเดินทางกลับ 2. ประเทศต้นทางตรวจสอบและรับรองบุคคลเพื่อออกบัญชีรายชื่อ (Name List)
ประเทศต้นทางของคนต่างด้าวแต่ละแห่งทำการตรวจสอบบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว จัดเก็บข้อมูลและดำเนินการตามแนวทางของประเทศตนเอง หลังดำเนินการเรียบร้อยจะได้เอกสารบัญชีรายชื่อ ( Name List ) จากประเทศต้นทาง
3. ตรวจสุขภาพ ซื้อประกันสุขภาพกรณีไม่มีประกันสังคม
ให้แรงงานทำการตรวจสุขภาพ รวมถึงมีการซื้อประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่กำหนด กรณียังไม่ได้มีประกันสังคม
4. ยื่นคำขออนุญาตทำงาน 2 ปี
ดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงาน 2 ปี ภายในวันที่ 13 ก.พ. 2568 หลังยื่นเรียบร้อยแรงงานจะได้รับอนุญาตทำงานจนถึงวันที่ 13 ก.พ. 2570 ทั้งนี้ยังต่ออายุได้อีก 2 ปี และสามารถทำงานได้จนถึงวันที่ 13 ก.พ. 2572
5. ยื่นคำขอต่อวีซ่า 2 ปี
ดำเนินการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant LA) และตรวจสอบการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 2 ปี ถึงวันที่ 13 ก.พ. 2570 ทั้งนี้ยังต่ออายุได้อีก 2 ปี และสามารถทำงานได้จนถึงวันที่ 13 ก.พ. 2572
สิ่งที่ต้องระวังในการต่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 13 ก.พ. 2568 รูปแบบ MOU
สำหรับนายจ้างที่วางแผนเตรียมต่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 13 ก.พ. 2568 รูปแบบ MOU มีสิ่งที่ต้องระวังเล็กน้อย ด้วยขั้นตอนที่กล่าวมานี้เป็นรูปแบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การยื่นขอรับรองบุคคลเพื่อออกบัญชีรายชื่อ (Name List) การใช้ระบบออนไลน์ร่วมกับการยื่นเอกสารผ่านหน่วยงาน อีกทั้งแม้มีข้อกำหนดต้องยื่นภายในกี่วันแต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าหลังยื่นแล้วต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบหรือดำเนินการนานแค่ไหน ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้นายจ้างทุกคนดำเนินการภายในเวลาอันรวดเร็วมากที่สุด ก่อนวันที่ 13 ก.พ. 2568 ไม่เช่นนั้นแรงงานจะต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางโดยไม่มียกเว้นกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
ค่าใช้จ่าย ดำเนินการ ต่ออายุ แรงงานต่างด้าว บาท ยื่น บัญชีรายชื่อ เรียกว่า name list พร้อมกับยื่น ความต้องการแรงงานต่างด้าว - เรียกว่า demand ค่า ใช้จ่าย 1,000 บาท ประกันการกลับบ้านของแรงงานต่างด้าวกระทรวงแรงงานจัดเก็บ ค่าใช้จ่าย 1,000 บาท ค่าใช้จ่ายอนุมัติการให้มาทำงานในประเทศไทยของรัฐบาลพม่า 2,000 บาท ได้ name list มาแล้วตรวจสุขภาพถ้าทำแบบรักษาได้ฟรี 2 ปี ค่าใช้จ่าย 4,000 บาท ถ้ามีประกันสังคมหรือจะไปทำประกันสังคม ค่าใช้จ่าย 2,000 บาท ใบอนุญาตทำงานหรือ work permit ค่าใช้จ่าย 2,000 บาท บัตรชมพู ค่าใช้จ่าย 1,000 บาท ตีวีซ่า 2 ปี ค่าใช้จ่าย 2,000 บาท ค่าบริการ 1,000 บาท ค่าใช้จ่ายรวม 13,000 บาท ขั้นตอนการจ่ายเงิน วันยื่นเอกสาร ค่าใช้จ่าย 1,000 บาท ประมาณ 20 วันได้ บัญชีรายชื่อพร้อมอนุมัติให้จ้างแรงงานต่างด้าวได้ ค่าใช้จ่าย 2,000 บาท ประมาณ 20 วันได้ใบอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าวของเมียนม่าจ่ายภาษีพม่า ค่าใช้จ่าย 5,000 บาท ตรวจสุขอใบอนุญาตทำงาน ทำบัตรชมพู ตีวีซ่า2ปี ค่าใช้จ่าย 5,000 บาท ค่าใช้จ่ายรวม 13,000 บาท เพิ่มเติม โทร . 081-8585563 , 094-8982006 , 092-1904423 ธ.กสิกรไทย บัญชี 069-3-82293-9 ( พิสิษฐ์ ภัทรยศรัตนิน )